สำนักข่าว อิจัน ได้สัมภาษณ์ เจ้าของปั๊ม ปตท.บางขุนเทียน 14 ได้ออกมาเผยว่า เจ้าของรถที่ชน เด็กปั๊มขาขาด ได้ออกมารับผิดชอบแล้ว เผยสภาพจิตใจพนักงานย่ำแย่ จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งได้เล่าเหตุการณ์สยองขณะเธอเติมน้ำมันว่า เธอถูกรถป้ายแดงชน ที่ ปตท.บางขุนเทียน 14 จนทำให้เด็กปั๊มที่ทำหน้าที่อยู่ในขณะนั้นขาขาด ตามที่รายงานไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดทางทีมข่าว อิจัน ได้ลงพื้นที่สอบถาม นายสาธร ม่วงศิริ
เจ้าของปั๊ม โดยนาย สาธร กล่าวว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น จึงไม่อยากต่อว่าใคร ขอให้มาช่วยดูแลน้องพนักงานที่บาดเจ็บดีกว่า ล่าสุดคนขับรถเก๋งป้ายแดงติดต่อมาแล้ว บอกว่าพร้อมที่จะรับผิดชอบ
เจ้าของปั๊มเปิดเผยกับอีจันอีกว่า อาการของพนักงานปั๊ม ตอนนี้หมอได้ทำการตัดขาออกแล้ว โดยให้เหตุผลว่า ถูกกระแทกอย่างแรงที่ขาข้างซ้าย เนื้อบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้เนื้อตาย จึงไม่สามารถต่อได้ ส่วนขาข้างขวาที่หัก ตอนนี้ดามเหล็กภายนอกอยู่
ซึ่งสภาพจิตใจของพนักงานที่ขาขาดค่อนข้างแย่ หลังผ่าตัดเสร็จฟื้นขึ้นมา รู้ว่าตัวเองไม่มีขาแล้ว ก็ร้องไห้อย่างเดียว ไม่ยอมกินข้าว เจ้าของปั๊ม บอกอีจันว่า พนักงานปั๊มที่ขาขาด ทำงานที่ปั๊มมา 10 ปี เข้าเมืองมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตอนนี้เป็นห่วงน้องอย่างเดียวคือ หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บหายแล้ว คงต้องหางานที่เหมาะสมให้ ยืนยันว่าไม่ทิ้งน้อง จะดูแลน้องให้ดีที่สุด แล้วก็อยากให้คู่กรณีเข้ามาช่วยดูแลด้วย จะอาศัยประกันอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เพราะคงต้องทำขาเทียม
พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลอันดามันตอนบน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 8 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2565 เวลา 05.00 น.
เมื่อเวลา 04.00 น.ของวันนี้ (22 มี.ค. 65) พายุไซโคลน“อัสนี”บริเวณทะเลอันดามันตอนบนได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 14.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 94.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 60 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 13 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเมียนมาในวันนี้ (22 มี.ค. 65) ส่งผลให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 22 มี.ค. 65
ธปท. เผย 2 บริษัทการเงิน แมคคาเล กรุ๊พ – อีออน ฝ่าฝืน Market conduct
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำการเปิดเผยรายชื่อบริษัทการเงิน 2 แห่งที่ฝ่าฝืนการให้บริการอย่างเป็นธรรม (Market conduct) : แมคคาเล กรุ๊พ – อีออน (21 มี.ค. 2565) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำการประกาศเปิดเผยรายชื่อของบริษัทการเงิน 2 แห่ง ที่พบว่ามีการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การให้บริการอย่างเป็นธรรม (Market conduct) โดย 2 บริษัทที่ว่าก็คือ แมคคาเล กรุ๊พ (MACKALE Group) และ อีออน (AEON)
นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ธปท. ได้กำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินให้ยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market conduct) อย่างต่อเนื่อง โดย ธปท. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้สอดรับกับพัฒนาการใหม่ๆ สุ่มตรวจสอบธุรกรรมและการบริหารจัดการ และสั่งการเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อลูกค้า รวมถึงได้เปรียบเทียบปรับและกล่าวโทษกรณีผู้ประกอบธุรกิจปฏิบัติฝ่าฝืนหลักเกณฑ์จนส่งผลเสียต่อผู้ใช้บริการทางการเงิน และเปิดเผยข้อมูลคุณภาพการให้บริการผ่านเว็บไซต์ ธปท. และเว็บไซต์ผู้ให้บริการทางการเงิน เพื่อความโปร่งใสและเพื่อให้ผู้ใช้บริการทางการเงินมีข้อมูลประกอบการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินมาอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลการร้องเรียนของประชาชนและการตรวจสอบของ ธปท. พบว่าในช่วงที่ผ่านมา มีผู้ให้บริการทางการเงิน 2 ราย ซึ่งประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้าน Market conduct เกี่ยวกับการให้ข้อมูลแก่ลูกค้าอย่างเพียงพอและการดูแลข้อมูลลูกค้า อันทำให้มีความผิดตามประกาศคณะปฏิบัติ ฉบับที่ 58 ประกาศกระทรวงการคลัง และประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ดังนี้
1. บริษัท แมคคาเล กรุ๊พ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทแมคคาเล กรุ๊พ”) ไม่ออกใบแจ้งหนี้ (เอกสารแสดงรายการใช้ผลิตภัณฑ์ที่จะต้องชำระหรือจะมีการเรียกเก็บ) ซึ่งจะต้องจัดส่งให้ลูกค้าก่อนถึงวันครบกำหนดชำระ รวมทั้งไม่ได้มอบหลักฐานการชำระเงินให้แก่ลูกค้า ซึ่งศาลอาญามีนบุรีมีคำพิพากษาว่าบริษัทแมคคาเล กรุ๊พ และกรรมการผู้มีอำนาจ มีความผิดตามกฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้องข้างต้น และให้ปรับบริษัทแมคคาเล กรุ๊พ 284,500 บาท และกรรมการผู้มีอำนาจ 284,500 บาท โดยประมาณ